27 พฤศจิกายน 2556

กูรูชี้ราคาที่ดินเชียงใหม่พุ่ง

27 พฤศจิกายน 2556

พลัสฯ เผยราคาที่ดินเชียงใหม่ปรับตัวเพิ่มต่อเนื่อง ที่ดินใน อ.เมืองราคาขยับตัวสูงสุดถึง 49% คาดราคาโดยรวมมีแนวโน้มโตอีกอย่างน้อย 20% พบราคาเสนอขายใกล้เคียงราคาประเมิน
 
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่าจากผลวิจัยล่าสุดในหัวข้อ “เชียงใหม่ ราคาที่ดินเติบโต” พบว่าในช่วงที่ผ่านมาราคาที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่เติบโตขึ้นในหลายบริเวณ อันเป็นผลมาจากการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคภายในจังหวัด ซึ่งถูกจัดให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคเหนือ ด้วยเหตุนี้ ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายให้ความสนใจในทำเลดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น กลายเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่พุ่งสูงขึ้น
 
จากการประกาศใช้ราคาประเมินที่ดินโดยกรมธนารักษ์ รอบบัญชีปี 2555 - 2558 พบว่าราคาที่ดินเชียงใหม่โดยรวมเติบโตเฉลี่ย 12% จากราคาประเมินปี 2551-2554 โดยอำเภอเมืองเชียงใหม่ ราคาเติบโตสูงสุด 49% รองลงมาได้แก่อำเภอสารภีเติบโต 15.26% และโซนสันทรายเติบโต 14.02% เป็นต้น
 
จากการสำรวจราคาเสนอขายที่ดินในพื้นที่เชียงใหม่ใน 7 โซนหลัก พบว่าราคาเสนอขายปัจจุบันใกล้เคียงกับราคาประเมินล่าสุดของกรมธนารักษ์ โดยพื้นที่โซนเมืองเชียงใหม่ ส่วนมากเสนอขายในช่วง 39,377-75,000 บาทต่อตารางวา หากเป็นพื้นที่เขตเมืองชั้นในเสนอขายในราคาสูงถึงตารางวาละ 200,000 บาท ในขณะที่ราคาประเมินอยู่ที่ 40,000-250,000 บาทต่อตารางวา 
 
โซนสันทราย ส่วนมากเสนอขายที่ราคา 13,707-48,000 บาทต่อตารางวา ราคาประเมินอยู่ในช่วง 12,000-20,000 บาทต่อตารางวา 
 
โซนสันกาแพง เสนอขายที่ 18,234-49,000 บาทต่อตารางวา ราคาประเมินอยู่ในช่วง 15,000-39,500 บาทต่อตารางวา 
 
โซนดอยสะเก็ด เสนอขายที่ 3,964-18,546 บาทต่อตารางวา ราคาประเมินอยู่ในช่วง 7,000-31,500 บาทต่อตารางวา 
 
โซนแม่ริม เสนอขายที่ 8,663-33,333 บาทต่อตารางวา ราคาประเมินอยู่ที่ 10,000-51.500 บาทต่อตารางวา โซนหางดงเสนอขาย 8,663-33,333 บาทต่อตารางวา ราคาประเมินอยู่ในช่วง 10,000-20,000 บาทต่อตารางวา 
 
โซนสารภี เสนอขาย 8,942-15,000 ราคาประเมินอยู่ในช่วง 10,000-25,500 บาทต่อตารางวา 
 
อัตราเปลี่ยนแปลงราคาประเมินที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ โดยกรมธนารักษ์ 
 
“เชียงใหม่มีประชากรกว่า 1.7 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับ 5 ของประเทศ นี่ยังไม่นับรวมผู้ที่มาทำงานในจังหวัด และเป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับ 2 ของประเทศ แต่เป็นอันดับ 1 ของภาค โดยมีกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูงจาก 5 จังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง และตาก  นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนมาเยือนจากทั่วโลกเฉลี่ยมากกว่า 5 ล้านคนต่อปี ติดอันดับต้นๆ ของโลก รวมถึงเป็นแหล่งพำนักระยะยาวของชาวญี่ปุ่นซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 4,000 คน มีการใช้จ่ายไม่ต่ำกว่าปีละ 300,000 – 400,000 บาทต่อคน”
 
“ทั้งนี้ เชียงใหม่ยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาคด้วยมหาวิทยาลัย 14 แห่ง ซึ่งรายได้ 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในเชียงใหม่มาจากภาคการศึกษา รวมถึงเป็นเกตเวย์ที่เชื่อมโยงไปประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน และโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทำให้กลุ่มทุนต่างๆ เข้ามาลงทุนในเชียงใหม่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างการวางแผนการก่อสร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวเชียงใหม่กว่า 3 ล้านคนต่อปี” นายอนุกูล กล่าว
 
นอกจากนี้ ผลวิจัยดังกล่าวยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์ที่สำคัญคือ การที่กลุ่มทุนต่างๆ ได้ประกาศลงทุนสร้างศูนย์การค้า ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ และคอมมูนิตี้มอลล์ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าเงินลงทุนรวมกันราว 15,000 ล้านบาท รวมถึงภาคเอกชนจากการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและการพาณิชย์ในรูปแบบต่างๆ 
 
“นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ทั้งทางอากาศและทางราง ส่งผลให้มีการลงทุนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยคาดการณ์ว่าราคาที่ดินเชียงใหม่จะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพอีกไม่น้อยกว่า 20% ในอนาคต ภายหลังการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558” นายอนุกูล กล่าวทิ้งท้าย
 
ภาพ: ศูนย์การค้าพรอมเมนาด้า เชียงใหม่ หนึ่งในช้อปปิ้งมอลล์ที่ลงทุนโดยกลุ่มทุนต่างชาติ 
 
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com  


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รับคำถามและความคิดเห็น โพสต์แนะนำมาได้ครับ